ปลูกผม FUT vs FUE ต่างกันอย่างไร? เทคนิคไหนที่เหมาะกับเรา?
ปลูกผม FUT และ FUE ต่างกันอย่างไร?
ปลูกผมเทคนิค FUT และ FUE ต่างกันในช่วงที่นำกราฟผมออกมาจากด้านหลังของศีรษะ
FUE (Follicular Unit Excision): เป็นการใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็ก เจาะนำกราฟผมออกมาทีละกราฟจากบริเวณท้ายทอย จากนั้นนำไปปลูกลงบริเวณที่ผมบาง
ข้อดีของการปลูกผม FUE
- มีแผลขนาดเล็กมาก ประมาณ 0.6-0.8 มิลลิเมตร ขึ้นกับขนาดกราฟผมของคนไข้
- แผลหายเร็ว และแผลเป็นจุดเล็กๆ ซึ่งหลังหายดีแล้วมักจะไม่เห็นแผลเป็นเลย
ข้อเสียของการปลูกผม FUE
- ความสมบูรณ์ของกราฟผมน้อยกว่าเทคนิค FUT เล็กน้อย เนื่องจากขณะเจาะกราฟจากด้านหลัง เราไม่เห็นโคนด้านล่างใต้หนังศีรษะ
- ใช้เวลาในการนำกราฟผมด้านหลังออกมานานกว่าการปลูกผม FUT เนื่องจากต้องเจาะออกมาทีละกราฟ
FUT (Follicular Unit Transplantation): เป็นการนำหนังศีรษะบางๆจากบริเวณท้ายทอยออกมาเป็นแถบ จากนั้นนำมาแยกเป็นแต่ละกราฟ แล้วนำไปปลูกลงยังบริเวณที่ต้องการ
ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค FUT
- สามารถปลูกผมได้ในจำนวนกราฟที่มาก
- ไม่ทำให้ความหนาแน่นของผมด้านหลังลดลง
- ได้กราฟผมที่มีคุณภาพสูง มีโอกาสรอดของเซลล์รากผมสูง
- โกนผมด้านหลังแคบ สามารถนำผมด้านบนเหนือแนวแผลมาปิดได้ทันทีหลังทำเสร็จ
ข้อเสียของการปลูกผมเทคนิค FUT
- มีแผลเป็นบริเวณท้ายทอย
โดยสรุปแล้ว การปลูกผมเทคนิค FUE และ FUT เป็นเทคนิคปลูกผมที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน
โดยเทคนิคการปลูกผมแบบไหนที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายนั้น แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการของคนไข้ ขนาดพื้นที่และจำนวนกราฟที่ใช้ในการปลูกผม ความสมบูรณ์ของเส้นผมและหนังศีรษะ เป็นต้น
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญทั้ง 2 เทคนิค: เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- ศึกษาข้อมูลให้ดี: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
- เลือกแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐานและคุณไว้ไจ: เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
สนใจปลูกผม ปรึกษากับคุณหมอหมิง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
Line: @ultimaFacebook: Ultima Hair Center ปลูกผมโดยแพทย์อเมริกันบอร์ด
โทร: 064-426-4555
Website: