ปลูกจอน คือ
ปลูกจอน
การปลูกจอน คือ หัตถการที่นำเส้นผมบริเวณท้ายทอยของผู้ที่ต้องการปลูกจอน ย้ายขึ้นมาปลูกลงบนบริเวณจอนทีละกราฟ โดยใช้หลักการคล้ายการปลูกผมแบบ FUE หรือ FUT แต่มักจะใช้จำนวนกราฟผมที่น้อยกว่าเพราะพื้นที่ในการปลูกจอนน้อยกว่าการปลูกผม
การปลูกจอนเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาจอนบาง จอนแหว่ง จอนมีแผลเป็น ทั้งที่เกิดจากพันธุกรรม อุบัติเหตุ หรือการศัลยกรรม รวมทั้งคนที่ต้องการเติมความหนาแน่นของจอนเดิม
ขั้นตอนการปลูกจอน มีดังนี้
- แพทย์จะทำการปรึกษาและประเมินสภาพจอนของผู้ที่ต้องการปลูก เพื่อวางแผนการปลูกจอนที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดบริเวณท้ายทอยและบริเวณที่จะปลูกจอน
- แพทย์จะนำกราฟผมบริเวณท้ายทอยออกมาด้วยเทคนิค FUE หรือ FUT
- นำกราฟผมที่ได้ไปปลูกลงในบริเวณที่จะปลูกจอนทีละกราฟ
หลังปลูกจอน
หลังปลูกจอน อาจมีอาการบวมหรือช้ำได้เล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ข้อดีของการปลูกจอน
- ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายธรรมชาติ
- จอนที่ปลูกใหม่มีลักษณะที่ใกล้เคียงกับจอนเดิม
- ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน
ข้อเสียของการปลูกจอน
- มีค่าใช้จ่ายสูง
- อาจมีอาการบวมหรือช้ำหลังผ่าตัด
ราคาการปลูกจอนในประเทศไทย ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้ : สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไลน์: @ultima เทคนิคในการปลูกจอน: การปลูกจอนมีด้วยกันหลายเทคนิค เช่น การปลูกจอนแบบ FUE และการปลูกจอนแบบ FUT ซึ่งเทคนิคที่แตกต่างกันอาจมีราคาที่แตกต่างกัน
- รูปทรงจอนที่ต้องการ: การปลูกจอนสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงจอนได้ตามต้องการ ซึ่งอาจทำให้ราคาแตกต่างกัน
- จำนวนกราฟที่ต้องใช้ในการปลูกจอน: กราฟคือหน่วยวัดจำนวนเส้นผม โดยการปลูกจอนแต่ละครั้งอาจต้องใช้จำนวนกราฟที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจทำให้ราคาแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ราคาการปลูกจอนแตกต่างกันอีก เช่น ชื่อเสียงของคลินิกหรือโรงพยาบาล ประสบการณ์ของแพทย์ คุณภาพของเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ เป็นต้น
หากท่านกำลังพิจารณาปลูกจอน ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม การปลูกจอนก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น
- ไม่สามารถปลูกจอนได้ในทุกกรณี เช่น ผู้ที่มีภาวะผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) หรือมีภาวะการอักเสบของผิวหนัง
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น อาการแพ้ยาชา การอักเสบ แผลเป็น
เทคนิคการปลูกจอน
การปลูกจอนสามารถทำได้ด้วยเทคนิคต่างๆ ดังนี้
- เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction): เป็นเทคนิคที่แพทย์จะเจาะหรือสไลซ์บริเวณท้ายทอยเพื่อเก็บรากผมทีละหน่วย (Follicular Unit) จากนั้นจึงย้ายรากผมที่เก็บได้ไปปลูกลงในบริเวณที่ต้องการ
- เทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation): เป็นเทคนิคที่แพทย์จะนำหนังศีรษะบางๆบริเวณท้ายทอยออกมา แล้วนำไปแบ่งเป็นกราฟผมย่อยๆ ก่อนนำมาปลูกลงบริเวณจอนที่ต้องการ
ข้อดีของเทคนิค FUE คือ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก และไม่ต้องเย็บแผล ส่วนข้อดีของเทคนิค FUT คือ ได้กราฟผมที่มีคุณภาพและอัตราการขึ้นดีกว่า และไม่ทำให้ความหนาแน่นของผมบริเวณท้ายทอยลดลง
การเลือกเทคนิคการปลูกจอนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ลักษณะของจอนที่ต้องการปลูก สภาพผิวของผู้รับบริการ และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
การดูแลหลังปลูกจอน
หลังปลูกจอน ผู้รับบริการควรดูแลตัวเองดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ปลูกจอน 2 สัปดาห์
- สระผมบริเวณที่ปลูกจอนตามคำแนะนำ
- งดใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ปลูกจอนเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ทานยาตามที่แพทย์แนะนำหลังปลูกจอน
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการปลูกจอน
สนใจปลูกจอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Ultima Hair Center หมอหมิง แอดไลน์: @ultima
ขอบคุณครับ
หมอหมิง