ปลูกผมผู้หญิง มีแผลเป็นไหม? 

การปลูกผม เป็นการนำกราฟผมออกมาจากด้านหลังของศีรษะเพื่อนำมาปลูกลงยังบริเวณที่ผมบาง หรือแนวไรผมด้านหน้าเพื่อปรับกรอบหน้า

การปลูกผมจะมี 2 เทคนิคหลัก คือ

FUE (Follicular Unit Excision):  เป็นการใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็ก เจาะนำกราฟผมออกมาทีละกราฟจากบริเวณท้ายทอย จากนั้นนำไปปลูกลงบริเวณที่ผมบาง

FUT (Follicular Unit Transplantation): เป็นการนำหนังศีรษะบางๆจากบริเวณท้ายทอยออกมาเป็นแถบ จากนั้นนำมาแยกเป็นแต่ละกราฟ แล้วนำไปปลูกลงยังบริเวณที่ต้องการ

รอยแผลเป็นด้านหลังจากการปลูกผมเป็นอย่างไร

FUE (Follicular Unit Excision)

รอยแผลเป็นจุดเล็กๆ จากการเจาะกราฟผมบริเวณท้ายทอยด้านหลังศีรษะ ขนาดประมาณ 0.6-0.9 มิลลิเมตร ขึ้นกับขนาดของกราฟผมแต่ละคน หลังแผลหายมักจะแทบไม่เห็นแผลเป็น หรือเห็นเป็นจุดเล็กๆกระจายอยู่ด้านหลัง

FUT (Follicular Unit Transplantation)

แผลจะเป็นแนวยาว หากแต่งขอบแผลด้วย Trichophytic Closure Technique ก็จะทำให้แนวแผลแคบ และมีเส้นผมแซมออกมาตามแนวแผลด้วย

หากทุกขั้นตอนในการปลูกผมได้มาตรฐาน บาดเจ็บต่อกราฟผมน้อย ก็จะมีผลลัพธ์ที่ดี 

จึงควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และดูแลตัวเองตามคำแนะนำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีหลังปลูกผม

 

ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อแผลเป็น 

• ความชำนาญของแพทย์:  แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะผ่าตัดและ เย็บแผลได้ประณีต ช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็นกว้าง
• การดูแลตัวเอง: การดูแลแผลหลังผ่าตัด มีผลต่อขนาดและการหายของแผลเป็น
• สภาพผิว: บางคนอาจมี "แผลเป็นนูน" (keloid) ได้ง่าย

Tips 

• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด
• ดูแลตัวเอง: ดูแลแผล ตามคำแนะนำของแพทย์
• สังเกตอาการ: หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

สรุป 

การปลูกผมผู้หญิงมีแผลเป็นในแต่ละเทคนิคที่ต่างกัน

แนะนำเลือกแพทย์ที่ชำนาญ ร่วมกับการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ก็จะ ลดโอกาสการเกิดแผลเป็น และเพิ่มโอกาสให้มีผมขึ้นที่ดี 

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง แก้ปัญหาหน้าผากกว้างได้ไหม ? 

สาวๆ ที่มีปัญหาหน้าผากกว้าง  ไม่มั่นใจเวลาถ่ายรูป  ไม่สะดวกเสยผม "การปลูกผม" เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้

ปลูกผมผู้หญิง ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากกว้างได้

• หน้าผากกว้าง: เกิดจากแนวไรผมสูง ทำให้หน้าผากดู กว้าง สูง
• การออกแบบแนวไรผม: แพทย์จะวิเคราะห์ปัญหา และออกแบบแนวไรผม ให้เข้ากับใบหน้า
• การปลูกผม: นำกราฟผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูก บริเวณหน้าผาก เพื่อปรับให้หน้าผากดูกว้างลดลง
• ผลลัพธ์:
  
  • สามารถลดขนาดหน้าผากให้ดูแคบลง
  • สร้างแนวไรผมใหม่
  • แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถช่วยให้ได้แนวไรผมดูคล้ายธรรมชาติได้

เทคนิคการปลูกผม ที่นิยมในผู้หญิง 

• FUE (Follicular Unit Excision): 
  
  • ใช้เครื่องมือเจาะนำกราฟผมออกมาทีละกอ
  • ปลูกลงยังบริเวณที่ต้องการ
• FUT (Follicular Unit Transplantation): 
  
  • นำหนังศีรษะออกมาเป็นแถบ แล้วนำมาแบ่งออกเป็นแต่ละกราฟผ่านกล้องจุลทรรศน์
  • นำกรากผมมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ
• Non-Shaven FUE: 
  
  • เทคนิค FUE แบบ "ไม่ต้องโกนผมด้านหลัง" เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการปลูกผมในพื้นที่ไม่กว้าง ใช้กราฟผมไม่มากนัก

ข้อดีของการปลูกผม 

• สามารถแก้ปัญหา "หน้าผากกว้าง" ได้อย่างตรงจุด
• สามารถทำให้ผลลัพธ์ดูคล้ายธรรมชาติได้
• ปรับกรอบหน้า ปรับแนวไรผม
• เพิ่มความมั่นใจ

ใครเหมาะกับการปลูกผม? 

• คนที่มีปัญหา หน้าผากกว้าง แนวไรผมด้านข้างเว้าลึก (เว้า M), ผมบางกลางศีรษะ
• คนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีภาวะที่เป็นข้อห้ามต่อการปลูกผม

ข้อควรรู้ก่อนปลูกผม 

• ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ: เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา
• ศึกษาข้อมูลให้ดี: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน: เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

สรุป 

การปลูกผมเป็นทางเลือกหลักที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหา "หน้าผากกว้าง" แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ดี ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัย 

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง สามารถปลูกผมบริเวณไหนได้บ้าง? (แนวไรผม, ขมับ, กลางศีรษะ)

ปลูกผมผู้หญิง สามารถปลูกผมได้หลายจุด ! 

ไม่ใช่แค่ปิดผมบางกลางศีรษะ  แต่ ปรับรูปหน้า ปรับแนวไรผมได้ด้วย! 

สาวๆ ที่กำลังสนใจ "ปลูกผม"  คงอยากรู้ว่า "ปลูกได้ตรงไหนบ้าง?"  เรามีคำตอบมาให้ครับ 

ปลูกผมผู้หญิง สามารถปลูกผมบริเวณไหนได้บ้าง?

ปลูกผมผู้หญิง สามารถปลูกได้หลายบริเวณ ขึ้นอยู่กับปัญหา และ ความต้องการของแต่ละคน 

• 1. แนวไรผม (Hairline)

  •  "แก้ไข" ปัญหา
    
    • หน้าผากกว้าง
    • แนวไรผมไม่สมมาตร 2 ฝั่งดูแนวไม่เท่ากัน
    • หน้าผากเว้า เป็นรูปตัว M
  •  "สร้าง" แนวไรผมใหม่
  •  "ปรับ" กรอบหน้าให้ดูเรียวขึ้น หรือตามแนวทางที่ต้องการ 

• 2. ขมับ (Temples)

  • "แก้ไข" ปัญหา
    
    • ผมบาง บริเวณขมับ
    • ขมับเว้าลึก
  • "เติมเต็ม" แนวผมบริเวณขมับ ให้ดูหนาขึ้น
  • "ปรับ" กรอบหน้า ให้ดูอ่อนเยาว์

• 3. กลางศีรษะ (Crown)

  • "แก้ไข" ปัญหาผมบางบริเวณกลางศีรษะ
  • "เพิ่ม" ความหนาแน่นของเส้นผม

• 4. อื่นๆ

  • "ปกปิด" รอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ ทั้งจากอุบัติเหตุ หรือจากศัลยกรรม
  • "เติมเต็ม" บริเวณ "หนวด" "เครา" "คิ้ว"

เทคนิคการปลูกผม ที่นิยมในผู้หญิง 

• FUE (Follicular Unit Excision): 
  
  • ใช้เครื่องมือเจาะนำกราฟผมออกมาทีละกอ
  • ปลูกลงยังบริเวณที่ต้องการ
• FUT (Follicular Unit Transplantation): 
  
  • นำหนังศีรษะออกมาเป็นแถบ แล้วนำมาแบ่งออกเป็นแต่ละกราฟผ่านกล้องจุลทรรศน์
  • นำกรากผมมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ
• Non-Shaven FUE: 
  
  • เทคนิค FUE แบบ "ไม่ต้องโกนผมด้านหลัง" เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการปลูกผมในพื้นที่ไม่กว้าง ใช้กราฟผมไม่มากนัก

ใครเหมาะกับการปลูกผม? 

• คนที่มีปัญหา "ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน"
• คนที่ต้องการ ปรับรูปหน้า หรือ ปรับแนวไรผม
• คนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีภาวะที่เป็นข้อห้ามต่อการปลูกผม

ข้อควรรู้ก่อนปลูกผม 

• ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ: เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา
• ศึกษาข้อมูลให้ดี: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน: เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

สรุป 

การปลูกผมผู้หญิง จะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผมในบริเวณที่ผมบางได้ และยังช่วยปรับกรอบหน้า ปรับแนวไรผมตามที่คุณต้องการ

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง เทคนิค FUE คืออะไร? 

สาวๆที่กำลังสนใจปลูกผมคงพอรู้จัก "ปลูกผมเทคนิค FUE" กันมาบ้าง  เรามาทำความรู้จักกับเทคนิคปลูกผม FUE ทั้งในด้านวิธีการ ข้อดี-ข้อเสีย และข้อจำกัดกันครับ

ปลูกผมเทคนิค FUE (Follicular Unit Excision) คือ 

ปลูกผมเทคนิค FUE คือเจาะนำ "กราฟผม"  ออกมาทีละกอๆ จากด้านหลังของศีรษะ ไปปลูกในจุดที่ผมบางหรือไม่มีผม

ขั้นตอนการปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision) 

1. ปรึกษา และออกแบบแนวผมเพื่อวัดพื้นที่และคำนวณจำนวนกราฟกับแพทย์ผู้ชำนาญด้านการปลูกผม

2. ประเมินพื้นที่ที่มีกราฟผมที่สมบูรณ์บริเวณท้ายทอย โกนผมบริเวณที่จะเจาะนำกราฟผมออกมา

3. ฉีดยาชา เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะใช้หัวเจาะขนาดเล็ก เจาะนำกราฟผมแต่ละกราฟออกมา

4. นำกราฟไปแช่ในสารละลายเฉพาะ ในอุณหภูมิที่เหมาะสม

5. นำไปปลูกลงในตำแหน่งที่ต้องการ โดยให้ดูเป็นธรรมชาติในความหนาแน่นที่เหมาะสม

ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค FUE 

• มีแผลเล็ก
• แผลเป็นจุดเล็กๆ ไม่มีรอยแผลเป็นยาว

ข้อเสียของการปลูกผมเทคนิค FUE 

• ได้กราฟผมจำนวนน้อยกว่า FUT อาจไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เยอะมาก
• คุณภาพของกราฟผมน้อยกว่าเทคนิค FUT อัตราขึ้นจึงน้อยกว่ากันบ้าง
• หลังนำกราฟผมออกไป ความหนาแน่นของผมด้านหลังจะลดลงด้วย

ปลูกผมผู้หญิง เทคนิค FUE คืออะไรใครเหมาะกับการปลูกผมเทคนิค FUE? 

• คนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ไม่มาก
• ไม่ต้องการแผลเป็นเป็นแนวยาว

ข้อควรรู้ก่อนปลูกผม 

• ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ: เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมในระยะยาว
• ศึกษาข้อมูลให้ดี: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
• เลือกแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน: เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

สรุป 

การปลูกผมเทคนิค FUE เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม เพราะแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น  แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ดี ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

https://youtu.be/uMfhotcvbcA

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง เทคนิค FUE คืออะไร? 

สาวๆที่กำลังสนใจปลูกผมคงพอรู้จัก "ปลูกผมเทคนิค FUE" กันมาบ้าง  เรามาทำความรู้จักกับเทคนิคปลูกผม FUE ทั้งในด้านวิธีการ ข้อดี-ข้อเสีย และข้อจำกัดกันครับ

 

ปลูกผมเทคนิค FUE (Follicular Unit Excision) คือ 

ปลูกผมเทคนิค FUE คือเจาะนำ "กราฟผม"  ออกมาทีละกอๆ จากด้านหลังของศีรษะ ไปปลูกในจุดที่ผมบางหรือไม่มีผม

ขั้นตอนการปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision) 

1. ปรึกษา และออกแบบแนวผมเพื่อวัดพื้นที่และคำนวณจำนวนกราฟกับแพทย์ผู้ชำนาญด้านการปลูกผม

2. ประเมินพื้นที่ที่มีกราฟผมที่สมบูรณ์บริเวณท้ายทอย โกนผมบริเวณที่จะเจาะนำกราฟผมออกมา

3. ฉีดยาชา เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะใช้หัวเจาะขนาดเล็ก เจาะนำกราฟผมแต่ละกราฟออกมา

4. นำกราฟไปแช่ในสารละลายเฉพาะ ในอุณหภูมิที่เหมาะสม

5. นำไปปลูกลงในตำแหน่งที่ต้องการ โดยให้ดูเป็นธรรมชาติในความหนาแน่นที่เหมาะสม

ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค FUE 

• มีแผลเล็ก
• แผลเป็นจุดเล็กๆ ไม่มีรอยแผลเป็นยาว

ข้อเสียของการปลูกผมเทคนิค FUE 

• ได้กราฟผมจำนวนน้อยกว่า FUT อาจไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เยอะมาก
• คุณภาพของกราฟผมน้อยกว่าเทคนิค FUT อัตราขึ้นจึงน้อยกว่ากันบ้าง
• หลังนำกราฟผมออกไป ความหนาแน่นของผมด้านหลังจะลดลงด้วย

ใครเหมาะกับการปลูกผมเทคนิค FUE? 

• คนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ไม่มาก
• ไม่ต้องการแผลเป็นเป็นแนวยาว

ข้อควรรู้ก่อนปลูกผม 

• ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ: เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมในระยะยาว
• ศึกษาข้อมูลให้ดี: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
• เลือกแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน: เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

สรุป 

การปลูกผมเทคนิค FUE เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม เพราะแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น  แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ดี ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง เทคนิคไหนดีที่สุด? (FUE, FUT) 

สาวๆ ที่กำลังสนใจปลูกผม  คงอยากรู้ว่า "เทคนิคไหน" ที่ "เหมาะ" กับตัวเองที่สุด วันนี้หมอหมิงมาเปรียบเทียบ "2 เทคนิคการปลูกผม" แบบเข้าใจง่ายๆ กันครับ

การปลูกผมจะเป็นการนำกราฟผมจากหนังศีรษะด้านหลังมาปลูกลงยังบริเวณที่ต้องการ

ซึ่งปัจจุบันการนำกราฟผมออกมาจะมีเพียง 2 เทคนิคเท่านั้น คือ

1. FUE (Follicular Unit Excision)

2. FUT (Follicular Unit Transplantation)

FUE (Follicular Unit Excision):  เป็นการใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็ก เจาะนำกราฟผมออกมาทีละกราฟจากบริเวณท้ายทอย จากนั้นนำไปปลูกลงบริเวณที่ผมบาง

ข้อดีของการปลูกผม FUE

- มีแผลขนาดเล็กมาก ประมาณ 0.6-0.8 มิลลิเมตร ขึ้นกับขนาดกราฟผมของคนไข้

- แผลหายเร็ว และแผลเป็นจุดเล็กๆ ซึ่งหลังหายดีแล้วมักจะไม่เห็นแผลเป็นเลย

ข้อเสียของการปลูกผม FUE

- ความสมบูรณ์ของกราฟผมน้อยกว่าเทคนิค FUT เล็กน้อย เนื่องจากขณะเจาะกราฟจากด้านหลัง เราไม่เห็นโคนด้านล่างใต้หนังศีรษะ

- ใช้เวลาในการนำกราฟผมด้านหลังออกมานานกว่าการปลูกผม FUT เนื่องจากต้องเจาะออกมาทีละกราฟ

FUT (Follicular Unit Transplantation): เป็นการนำหนังศีรษะบางๆจากบริเวณท้ายทอยออกมาเป็นแถบ จากนั้นนำมาแยกเป็นแต่ละกราฟ แล้วนำไปปลูกลงยังบริเวณที่ต้องการ

ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค FUT

- สามารถปลูกผมได้ในจำนวนกราฟที่มาก

- ไม่ทำให้ความหนาแน่นของผมด้านหลังลดลง

- ได้กราฟผมที่มีคุณภาพสูง มีโอกาสรอดของเซลล์รากผมสูง

- โกนผมด้านหลังแคบ สามารถนำผมด้านบนเหนือแนวแผลมาปิดได้ทันทีหลังทำเสร็จ

ข้อเสียของการปลูกผมเทคนิค FUT

- มีแผลเป็นบริเวณท้ายทอย

แล้วเทคนิคไหน "ดีที่สุด" สำหรับผู้หญิง? 

ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย  เรามาดูข้อจำกัดของแต่ละเทคนิคกันครับ

 

 

ข้อจำกัดของการปลูกผม FUE: 5 ข้อ

1. ได้กราฟผมจำนวนไม่มาก:

ในคนเอเชียที่ผมด้านหลังมีความหนาแน่นปกติ มักจะสามารถนำกราฟผมด้านหลังออกมาได้ไม่เกิน 2000-2500 กราฟ เพราะผมด้านหลังจะบางลงตามจำนวนกราฟผมที่เรานำออกไป

ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผมบริเวณท้ายทอยที่มี

ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผมบางทั้งศีรษะ หรือต้องการปลูกผมลงยังบริเวณกว้าง

2. ระยะเวลา:

ปลูกผมเทคนิค FUE จะใช้เวลานำกราฟผมออกมาจากด้านหลังนานกว่าปลูกผมเทคนิค FUT

ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถนอนคว่ำหน้าได้นาน

3. ความสมบูรณ์ของกราฟผม:

ในขณะนำกราฟผมออกมา อาจมีบางกราฟที่มีความสมบูรณ์ลดลง

เนื่องจากในขั้นตอนการปั่นนำกราฟผมออกมา เราไม่สามารถเห็นตำแหน่งของรากผมใต้ผิวหนังได้

4. ผลลัพธ์:

เนื่องจากความสมบูรณ์ของกราฟผมจากการปลูกผมเทคนิค FUE จะน้อยกว่าเทคนิค FUT ดังนั้นอัตราการขึ้นของกราฟผมก็มักจะน้อยกว่าปลูกผมเทคนิค FUT

และกราฟผมบางส่วนที่นำมาจากเทคนิค FUE หากเจาะมาจากนอก Safe zone หรือโซนที่ได้รับผลจากผมบางทางกรรมพันธุ์ ก็มีโอกาสที่กราฟผมจะอยู่ได้ไม่นาน

5. ความหนาแน่นของผมบริเวณท้ายทอยลดลง:

เนื่องจากเป็นการเจาะนำกราฟผมออกไปปลูกยังอีกบริเวณนึง หากต้องนำออกไปมาก ก็จะทำให้บางเพิ่มขึ้น

ข้อจำกัดของการปลูกผม FUT

1. ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไว้ผมด้านหลังที่สั้นมาก เนื่องจากจะทำให้เห็นแนวแผลเป็นได้

2. ไม่เหมาะในคนที่หนังศีรษะด้านหลังตึงมากเกินไป

ในคนที่ต้องการปลูกผมลงพื้นที่ๆกว้าง ต้องใช้กราฟผมเยอะ หากหนังศีรษะด้านหลังตึงมาก จึงไม่เหมาะที่จะนำกราฟผมออกมาโดยเทคนิค FUT

3. ในคนที่ไม่ต้องการมีแผลเป็นแนวยาว หากต้องใช้กราฟผมในการปลูกผมไม่เยอะ จะเหมาะกับเทคนิค FUE มากกว่า

4. คนที่มีความจำเป็นต้องทำให้หนังศีรษะด้านหลังตึงหลังปลูกผม

 

กรณีที่ 1:

ผู้หญิง ไม่มีปัญหาผมร่วง ผมยังหนาแน่นดี

ต้องการปลูกผมเพื่อปิดเว้า M ด้านข้าง และลดขนาดหน้าผาก ซึ่งพื้นที่ขนาดกลางๆ ไม่กว้างนัก ประเมินแล้วใช้กราฟผม 2000 กราฟ ไม่ชอบการมีแผลเป็นแบบเป็นแนว

เคสนี้เหมาะปลูกผมโดยเทคนิค FUE

 

กรณีที่ 2:

ผู้หญิง มีปัญหาผมร่วง ผมบางที่แนวแสก ผมด้านหลังยังหนาแน่นพอสมควร ประเมินแล้วใช้กราฟผม 3000 กราฟ

เคสนี้เหมาะที่จะรับการปลูกผมด้วยเทคนิค FUT เนื่องจากใช้ปริมาณกราฟเยอะ (FUE 3000 กราฟจะทำให้ผมด้านหลังบางเกินไป และในอนาคตก็มีความเสี่ยงที่กราฟผมที่นำมาจากส่วนบนๆจะได้รับผลกระทบจากผมร่วงไปด้วย)

สรุป

การปลูกผมเทคนิค FUE และ FUT เป็นเทคนิคปลูกผมที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือต้องการปลูกผมเพื่อปรับกรอบหน้า ลดความกว้างของหน้าผาก

โดยเทคนิคการปลูกผมแบบไหนที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายนั้น แพทย์จะเป็นผู้แนะนำและพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการของคนไข้ ขนาดพื้นที่และจำนวนกราฟที่ใช้ในการปลูกผม ความสมบูรณ์ของเส้นผมและหนังศีรษะ เป็นต้น 

• ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญทั้ง 2 เทคนิค: เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
• ศึกษาข้อมูลให้ดี: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
• เลือกแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐานและคุณไว้ไจ: เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

https://youtu.be/uMfhotcvbcA

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง จะเห็นผลลัพธ์เมื่อใด ? 

ผู้หญิงที่ต้องการจะปลูกผมทุกคนก็คงอยากรู้ว่าปลูกผมแล้วจะเห็นผลลัพธ์เมื่อใด ?   เรามาดูคำตอบจากบทความนี้กันครับ

ปลูกผมแล้ว ผมใหม่จะขึ้นเมื่อใด ?

โดยทั่วไปแล้ว เส้นผมใหม่จะเริ่มงอกขึ้นมาประมาณ 3-4 เดือนหลังการปลูกผม แต่กระบวนการนี้จะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ โดยสามารถแบ่งเป็นช่วงเวลาต่างๆ ดังนี้

การปลูกผมผู้หญิงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณ 1 ปี

โดยจะแบ่งเป็นช่วงดังนี้

- 2 สัปดาห์-2 เดือน: ผมที่เพิ่งปลูกจะมีการผลัดร่วง 50-80 %

- 3-4 เดือน: ผมเริ่มงอกขึ้นมาใหม่

- 6 เดือน: เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับก่อนปลูก

- 9-12 เดือน: ผมมักจะขึ้นเต็มที่ในช่วงนี้

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการงอกของเส้นผม

• คุณภาพของกราฟผม: หากได้กราฟผมที่มีคุณภาพดี ก็จะทำให้ผมขึ้นได้ไวกว่าและมีอัตราขึ้นที่ดีกว่า  ซึ่งคุณภาพของกราฟผมจะขึ้นกับตัวคนไข้เอง และความปราณีตในขั้นตอนต่างๆระหว่างการปลูกผม
• ความชำนาญของแพทย์: แพทย์และทีมงานที่มีประสบการณ์จะสามารถดูแลจัดการกราฟผมได้เป็นอย่างดี  ทำให้กราฟผมบาดเจ็น้อย จึงมีอัตราการขึ้นที่ดีและส่งผลให้เส้นผมงอกใหม่ได้เร็วขึ้น
• การดูแลหลังปลูกผม: การดูแลตัวเองหลังปลูกผมอย่างถูกวิธี เช่น การสระผมตามแนวทางที่แนะนำ การรับประทานยา และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม จะช่วยให้รากผมแข็งแรงและเส้นผมงอกได้ดีขึ้น
• สุขภาพโดยรวม: ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว มักจะเห็นผลเร็วกว่า
• อายุ: โดยทั่วไป คนอายุน้อยจะมีอัตราการงอกของเส้นผมใหม่เร็วกว่าผู้สูงอายุ

คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังปลูกผม

• สระผม: ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
• รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: และกิจกรรมที่ทำให้ศีรษะได้รับแรงกระแทกในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังปลูกผม
• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง: ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เพื่อช่วยในการสมานแผลและเสริมสร้างเส้นผมใหม่

สรุป

การปลูกผมในผู้หญิงและผู้ชายจะใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 9-12 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

การดูแลตัวเองหลังการปลูกผมอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เส้นผมใหม่เจริญเติบโตได้ดีและเห็นผลเร็วขึ้น หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการปลูกผม แนะนำปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อแนะนำแนวทางการดูแลรักษาที่เหมาะสม

 

สรุป 

การปลูกผมในผู้หญิง จะเห็นผลลัพธ์ "ชัดเจน" ประมาณ 1 ปี  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สุขภาพ เทคนิค ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และ การดูแลตัวเอง 

https://youtu.be/uMfhotcvbcA

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง ผมที่ปลูกจะอยู่ได้นานแค่ไหน? 

สาวๆ ที่กำลังสนใจปลูกผม  คงอยากรู้ว่าปลูกแล้วผมจะอยู่กับเราไปนานแค่ไหน?  เรามาดูคำตอบกันครับ 

หลังปลูกผมในผู้หญิง ผมที่ปลูกแล้วจะอยู่ได้นานไหม ขึ้นกับหลายปัจจัย ดังนี้:

- คุณภาพของกราฟผม: การปลูกผมที่ได้กราฟผมคุณภาพดี จะช่วยให้ผมที่ปลูกมีอัตราการขึ้นที่ดี และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 

- ตำแหน่งที่นำกราฟผมออกมา: หากนำกราฟผมออกมาจากนอก Safe zone (โซนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากผมบางทางกรรมพันธุ์) ก็มีโอกาสที่กราฟผมจะอยู่ได้ไม่นาน โดยเฉพาะในคนที่มีความเสี่ยงต่อผมร่วงผมบางมาก  ดังนั้นหากปลูกผมด้วยเทคนิค FUE จึงไม่ควรนำกราฟผมออกมาจำนวนมากเกินไป เนื่องจากจะมีกราฟผมส่วนที่นำมาจากนอก Safe zone ด้วย

- สุขภาพของร่างกาย: สุขภาพร่างกายที่ดี ไม่มีโรคประจำตัว จะส่งผลต่ออายุการใช้งานของผมปลูก เนื่องจากผมที่นำมาปลูกก็มีโอกาสร่วงได้หากมีปัญหาสุขภาพที่รุนแรงพอสมควร

- การดูแลรักษา: การดูแลหนังศีรษะและเส้นผมหลังการปลูกผมอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผมที่ปลูกมีสุขภาพดีและอยู่ได้นาน

ปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อผมร่วง

• ผมร่วงตามธรรมชาติ: ถึงแม้ผมที่ปลูกจะไม่ร่วงจากฮอร์โมน แต่ "ผมก็มีอายุขัย" และจะ "ร่วงไปตามธรรมชาติ" เมื่อถึงเวลา
• ผมเดิมอาจร่วง: ผมเดิมที่ไม่ได้ปลูก อาจจะ "บางลง" หรือ "ร่วงไป" ตามกรรมพันธุ์และฮอร์โมน
• ปัจจัยอื่นๆ: เช่น สุขภาพ การดูแลตัวเอง ความเครียด การคุมอาหาร ก็มีผลต่อการขึ้นและการเจริญของเส้นผม

Tips 

• ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ: เพื่อประเมินปัญหา และวางแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละเคส
• ศึกษาข้อมูล ข้อดี-ข้อเสีย: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
• เลือกแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน/เน้นคุณภาพ: เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
• ดูแลตัวเอง: พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และ ดูแลเส้นผม ตามคำแนะนำของแพทย์

สรุป 

ผมที่ปลูก "จะอยู่ได้นาน" หากในทุกขั้นตอนระหว่างการปลูกผมมีการควบคุมคุณภาพที่ดี แต่ก็มีโอกาส "ร่วงไปตามธรรมชาติ" เช่นกัน  ดังนั้น ควรดูแลตัวเอง และ เส้นผมให้ดี เพื่อให้ผมอยู่กับเราไปได้นาน

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมมาแล้ว ดูแลตัวเองยังไงให้ผมขึ้นสวยตามที่คุณต้องการ

สาวๆ ที่เพิ่งปลูกผมมา การดูแลตัวเองหลังปลูกผมเป็นสิ่งสำคัญ จะเป็นส่วนช่วนให้แผลหายเร็ว ผมขึ้นดี แข็งแรง และลดโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อน  

เรามาดูวิธีดูแลตัวเองหลังปลูกผมกันครับ

การปฏิบัติตัวหลังการปลูกผม 1-2 สัปดาห์แรก:

พักผ่อนให้เพียงพอ
ทานยาตามแพทย์แนะนำ
สระผมตามคำแนะนำ โดยใช้แชมพูที่ทางคลินิกเตรียมให้
หากใช้ไดร์เป่าผม ใช้ลมเย็นและไม่แรง
งดดื่มแอลกอฮอล์ 3 วันหลังปลูก
งดสูบบุหรี่ เนื่องจากเป็นสาเหตุทำให้ผมร่วง
หลีกเลี่ยงการก้มศีรษะ การกระทบกระเทือน
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย 1-2 สัปดาห์
หลีกเลี่ยงแสงแดด สามารถสวมหมวกได้ แต่ไม่ครูดในตำแหน่งที่เพิ่งปลูกผม
ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีน ไม่มีของแสลง แต่ทานอาหารที่สะอาด
หากทานพริกหรืออาหารเผ็ดแล้วคันหนังศีรษะหรือเหงื่อออก แนะนำให้งดหลังปลูกผม 2 สัปดาห์

การปฏิบัติตัวหลังการปลูกผม 2 สัปดาห์:

นัดมาเคลียสะเก็ดที่คลินิก
ช่วง 2 สัปดาห์ - 2 เดือน เส้นผมที่เพิ่งปลูกจะผลัดผมร่วงไป 50-80% เส้นที่ไม่ร่วงจะยาวขึ้นเรื่อยๆ 1-1.2 ซม./เดือน เส้นที่ร่วงไปจะทะยอยขึ้นช่วง 3-4 เดือนหลังปลูก

การปฏิบัติตัวหลังการปลูกผม 5-6 เดือน:

หากปลูกผมด้านหน้า จะเริ่มเห็นกรอบหน้าชัดขึ้น แต่ด้านในจะยังไม่ค่อยหนาแน่นเต็มที่

การปฏิบัติตัวหลังการปลูกผม 9-12 เดือน:

ผมจะขึ้นแน่นดี และยาวพอจัดแต่งทรงได้แล้ว
ไม่ควรคุมอาหาร: การคุมอาหารมีส่วนทำให้รากผมได้รับสารอาหารลดลง มีผลต่อการเจริญและอัตราการขึ้นหลังปลูกผมได้ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญ
พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนสำคัญมาก ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม

Tips เพิ่มเติม 

• อาหารบำรุงผม: ทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ
• พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนสำคัญมาก ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
• งดการสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบ ส่งผลให้ผมขึ้นไม่ดี และผมร่วงได้

ดูแลตัวเองให้ดี เพื่อผมขึ้นสวย  ฟื้นตัวไว เพื่อผลลัพธ์ที่คุณต้องการ

ดูแลตัวเองหลังปลูกผมอย่างไร

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน 

โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board 

คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง 

หมอหมิง แอดไลน์: @ultima

FB: Ultima Hair Center ปลูกผมถาวร โดยแพทย์อเมริกันบอร์ด

ปลูกผมผู้หญิง มีโอกาสผมไม่ขึ้นไหม?

ปลูกผมจะขึ้นจริงไหม?  มีโอกาสที่ผมจะไม่ขึ้นไหม?

คงไม่ใช่ทุกคนที่ผมจะขึ้นได้ดีหลังจากปลูกผม แต่จะขึ้นกับปัจจัยใดบ้าง

การปลูกผม (Hair Transplantation) เป็นการผ่าตัดเล็ก โดยจะย้ายกราฟผมจากบริเวณท้ายทอยที่มีเส้นผมสมบูรณ์และหนาแน่น ไปปลูกในบริเวณที่ผมบาง กลางศีรษะ หรือกรอบหน้า ไรผมที่ต้องการ

กราฟผมที่ได้จากบริเวณท้ายทอยนี้ จะเป็นกราฟผมที่ไม่ค่อยมีผลกระทบจากภาวะผมบางทางกรรมพันธุ์ จึงสามารถอยู่ได้นานหากไม่มีปัญหาด้านสุขภาพอื่นที่ทำให้ผมร่วง

ดังนั้นการปลูกผมในผู้หญิง "ขึ้นได้จริง"  แต่ "ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล" ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น

 

- เทคนิคการปลูกผม: อัตราการขึ้นของเทคนิค FUT จะดีกว่า FUE

- ประสบการณ์ของแพทย์และทีมงาน

- คุณภาพของกราฟผมที่นำมาปลูก

- การบาดเจ็บต่อกราฟผมจากทุกขั้นตอนระหว่างปลูกผม

- การดูแลหลังปลูกผม

- สุขภาพของคนไข้

อย่างไรก็ตาม การปลูกผม "ไม่ใช่การรักษาผมร่วง" แต่เป็นการ "ย้ายกราฟผม" มาปลูกลงบริเวณที่ต้องการเพื่อเพิ่มความหนาแน่นในบริเวณนั้น

 

วิธีป้องกัน 

• ปรึกษาแพทย์: เลือกแพทย์ที่ชำนาญและมีประสบการณ์
• เลือกคลินิก: ที่ได้มาตรฐาน และไว้ใจได้
• ดูแลตัวเอง: "อย่างเคร่งครัด" ตามคำแนะนำของแพทย์
• แจ้งประวัติ: แจ้งประวัติการแพ้ยา หรือ โรคประจำตัว

สรุป

การปลูกผมเป็นวิธีแก้ปัญหาในคนที่ผมบาง ศีรษะล้าน หรือต้องการปรับกรอบหน้า ปรับแนวไรผมด้านหน้า ที่ได้ผลจริงหากทำโดยแพทย์และทีมงานที่ชำนาญมีระสบการณ์สูง มีการควบคุมคุณภาพของกราฟผมในทุกขั้นตอนระหว่างปลูกผม และมีการดูแลหลังปลูกผมอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการปลูกผมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

ปลูกผมผู้หญิง มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง? 

สาวๆ ที่กำลังสนใจปลูกผม  คงอยากรู้ว่าปลูกผมแล้วจะมี "ผลข้างเคียง" อะไรบ้าง  บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลใจไปครับ  ผลข้างเคียงจากการปลูกผม มักไม่รุนแรง และหายได้เอง  แต่ก็มีบางอย่างที่ควร "ระวัง" มาดูกันเลยครับ

 ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น 

• 1. อาการบวม: 
  
  • บริเวณหน้าผาก หนังศีรษะ หรือรอบดวงตา
  • มักเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกหลังปลูกผม
  • สามารถ "ลดบวม" ได้ด้วยการ "ประคบเย็น"  และ "นอนหนุนหมอนสูง"
• 2. รอยแดง รอยแผลเป็น:
  
  • เป็นรอยเล็กๆ บริเวณที่ปลูกผม
  • มักจะจางหายไปเองภายในไม่กี่เดือน
• 3. อาการชา:
  
  • บริเวณหนังศีรษะ
  • อาจเกิดขึ้นชั่วคราว และจะค่อยๆ หายไปเอง
• 4. ผมร่วง:
  
  • ผมที่ปลูกใหม่ หรือผมเดิมบริเวณข้างเคียง อาจมีการหลุดร่วงบ้าง ซึ่งเป็นอาการปกติ (Shock Loss)
• 5. การติดเชื้อ:
  
  • มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย หากดูแลแผลหลังผ่าตัดอย่างถูกวิธี
• 6. ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ:
  
  • เช่น ผมขึ้นไม่หนา หรือขึ้นไม่สม่ำเสมอ

ปัจจัยที่มีผลต่อโอกาสการเกิดผลข้างเคียง 

• สุขภาพของผู้เข้ารับการปลูกผม: ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด อาจมีความเสี่ยงสูงกว่า
• เทคนิคการปลูกผม: เทคนิค FUE มักมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า FUT
• ความเชี่ยวชาญของแพทย์: แพทย์ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้
• การดูแลตัวเองหลังปลูกผม: การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงได้

ลดความเสี่ยงผลข้างเคียง ทำได้อย่างไร? 

• เลือกคลินิกปลูกผมที่ได้มาตรฐาน: มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์
• ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด: ก่อนการปลูกผม
• ดูแลตัวเองหลังปลูกผมอย่างเคร่งครัด: ตามคำแนะนำของแพทย์
• แจ้งประวัติการแพ้ยา หรือโรคประจำตัว: ให้แพทย์ทราบ

หากมีข้อสงสัย หรือพบอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

ปลูกผม ปลูกคิ้ว ปลูกจอน โดย แพทย์ปลูกผม ABHRS American Board คลินิกปลูกถ่ายรากผมโดยตรง หมอหมิง แอดไลน์:@ultima

หรือ คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/@794qfknw

• การรักษาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ